มันคงจะดีถ้าคนเราสามารถคุยกับสัตว์ที่ได้ โดยสามารถรับรู้ความต้องการของมันเหมือนคุยกับคน แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ทำให้เราได้รู้ว่า เมื่อคนเราสามารถคุยกับสัตว์ได้มันอาจมีทั้งข้อดีและข้อเสียตามมา ซึ่งก็ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันถูกสร้างมาด้วยความสมดุล และมันจะมีดีหากเรารู้จักที่จะใช้ประโยชน์จากมัน สำหรับหนังเรื่อง Doctor Dolittle ก็ทำออกมาในแนวตลกคอมเมดี้ โดยหากจะพูดถึงความสนุกของหนัง ก็ต้องบอกว่าอยู่ในระดับที่ดี แต่หากจะพูดถึงในเรื่องของความตลกก็ต้องบอกว่ามีเต็มสิบเลยทีเดียว โดยการนำเสนอของหนังให้เราเข้าใจถึงความคิดของเราสัตว์ต่างๆนั้นเป็นไอเดียที่ ครีเอตมากๆด้วยมุขตลกและความสุดกวนของเหล่าสัตว์ทั้งหลาย ทำให้การดูหนังเรื่องนี้เราได้รู้สึกว่ามันทำให้ผ่อนคลายเป็นอย่างมากกับความน่ารักของเหล่าสัตว์และมุขตลกของมัน สำหรับหนังเรื่องนี้ก็ขอให้คะแนนอยู่ที่ 7/10 ครับ หากใครที่กำลังเครียดๆอยู่การได้รับชมหนังตลกๆสักเรื่องที่มาจากความน่ารักของเหล่าสัตว์ทั้งหลาย ก็ห้ามพลาดเลยครับ
เนื้อเรื่องของหนัง Doctor Dolittle
สำหรับเนื้อเรื่องของหนัง Doctor Dolittle ก็เป็นเรื่องราวของนายแพทย์คนหนึ่ง ซึ่งรับบทโดย เอ็ดดี้ เมอร์ฟี่ เขามีความสามารถพิเศษโดยที่สามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ โดยเหตุการณ์ในช่วงวัยเด็กเขาได้ถูกมองว่าความสามารถนี้เกิดจากวิญญาณร้ายเข้า และ คนรอบข้างไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ จึงทำให้ความสามารถในการสื่อสารกับสัตว์ของเขานั้นหายไปจากความคิด เพราะถูกมองว่ามันไม่ใช่เรื่องดี แต่เมื่อวันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุขึ้น ระหว่างที่เขาขับรถอยู่ทำให้เกือบชนกับสุนัขตัวหนึ่ง และ ความสามารถของเขานั้นก็หวนกลับคืนมาและทำให้เรื่องราวต่างๆที่สุดแสนจะวุ่นวายเพราะเหล่าสัตว์ทั้งหลายก็เกิดขึ้น และเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรนั้นก็ต้องติดตามชมกันได้ในหนังเรื่องนี้ครับ
สิ่งที่ได้จากหนังเรื่อง Doctor Dolittle
สำหรับหนังเรื่อง Doctor Dolittle ก็ทำให้เราได้เห็นว่าสิ่งที่เราคิดถึงการที่ได้พูดคุยกับสัตว์ตั้งหลายอย่างเข้าใจนั้น มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดได้ และแม้ว่ามันจะมีทั้งเรื่องดีและความวุ่นวายตามมา โดยหากจะมองว่าเป็นเรื่องที่ดีมันก็คือการที่เราสามารถเข้าใจในความต้องการของพวกเขา ได้แต่หากว่ารอบตัวเราเต็มไปด้วยสัตว์โดยที่เราเข้าใจความคิดของพวกเขาทั้งหลายได้ทั้งหมด มันก็อาจจะทำให้สมองของเราไม่ได้พักก็เป็นได้ จากเสียงของสัตว์ทั้งหลายที่เราได้ยินอยู่ตลอดเวลา
