หนังฮิต เรื่องคังคุไบ หญิงแกร่งแห่งมุมไบ (Gangubai Kathiawadi) เป็นภาพยนตร์แนวดราม่าที่กล่าวถึงชีวประวัติของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีชื่อว่า “คังคุไบ กฐิยาวาฑี” และยังเป็นตัวแสดงหลักของเรื่อง ที่สำคัญเธอเคยมีตัวตนอยู่จริง และเป็นนักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิสตรี นอกจากนี้เธอยังได้รับฉายาเป็นมาเฟียหญิงแห่งมุมไบอีกด้วย โดยการดำเนินเรื่องจะเริ่มจาก เด็กสาวหน้าตาดีที่มาจากครอบครัวฐานะดีออกแนวลูกคุณหนูมีนามว่า คงคา กฐิยาวาฑี (Alia Bhatt) พ่อของเธอเป็นทนายความ คงคาเป็นหญิงสาวที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวยเพียงเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถหลายด้านทั้งการเต้น การแสดง และการร้องเพลง และมีความฝันว่าสักวันจะต้องเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงให้จงได้
คังคุไบ หญิงสาวที่ไม่ยอมแพ้ชีวิต

ทำให้วันหนึ่งแฟนหนุ่มของเธอที่มีชื่อว่า รามนิก ได้มาชวนเธอให้หนีออกจากบ้านเพื่อเตรียมตัวไปเป็นนักแสดง เพราะเขาได้ติดต่อเอเจนซี่ไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนแรกคงคายังลังเลเพราะกลัวพ่อและแม่จะเสียใจ แต่รามนิกก็เกลี่ยกล่อมและพยายามโน้มน้าวเธอต่างๆ นาๆ โดยเฉพาะจี้จุดในเรื่องของความฝัน พร้อมทั้งบอกว่าเขารักเธอมากอยากให้เธอสมหวังอย่างที่ตั้งใจ เมื่อดังแล้วค่อยกลับมาบ้านตอนนั้นก็ยังไม่สาย คงคาจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านและดินทางไปกับคนรัก

แต่ใครจะไปคาดคิดสุดท้ายรามนิกขายเธอให้กับซ่องโสเภณีด้วยเงิน 1,000 รูปี แล้วเขาก็หายตัวไปและไม่เคยกลับมาอีกเลย ในตอนแรกคงคาไม่ยอมที่จะเป็นโสเภณี แต่แล้วเธอก็คิดได้ว่าวันเวลาไม่อาจย้อนกลับได้มาถึงตรงนี้แล้วถ้าไม่ยอมเธอก็คงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เธอจึงจำใจต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรมของตนเอง และเธอก็สามารถทำหน้าที่ได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง จนวันหนึ่งลูกค้าได้แนะนำให้เธอเปลี่ยนชื่อเป็น “คังคุ” เพราะเขาเชื่อว่าต่อไปเธอจะยิ่งใหญ่กว่าในทุกวันนี้ เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเป็น “คังคุ”
ต่อมาเธอถูกลูกค้าคนหนึ่งที่มาใช้บริการซ้อมจนเกือบปางตาย เธอจึงได้ไปขอความช่วยเหลือจาก คาริม คาลา มาเฟียใหญ่ที่มีคุณธรรม ด้วยความเห็นใจเขายินดีช่วยเหลือเธอ จากนั้นก็ได้ส่งเสริมและอุปถัมภ์ในเรื่องต่างๆ จนวันหนึ่งเจ้าของซ่องเสียชีวิต หญิงสาวที่อยู่ภายในซ่องต่างพร้อมใจขอให้คังคุงไบขึ้นมาทำหน้าที่ดูแลพวกเธอ และนี่เองที่คังคุได้เปลี่ยนมาเป็นเจ้าของซ่อง ซึ่งนอกจากดูแลผู้ที่อยู่ภายในซ่องแล้วเธอยังคอยช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกขายมาโดยไม่เต็มใจ และยังคอยช่วยดูแลเด็กๆ ที่เกิดจากแม่ที่เป็นหญิงขายบริการอีกด้วย

จากนั้นเธอได้สมัครเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี และได้ตำแหน่งในที่สุด เธอจึงใช้ตำแหน่งที่ได้รับพูดถึงเรื่องสิทธิของโสเภณี และเรียกร้องความเป็นธรรม รวมถึงขอให้ปฏิบัติกับพวกเธออย่างเท่าเทียมเหมือนเป็นอาชีพสุจริตอาชีพหนึ่ง นอกจากนี้เธอยังได้เข้าไปขอร้องให้นายกฯ ตั้งบทลงโทษผู้พาเด็กมาขาย และขอให้อาชีพโสเภณีถูกฎหมายอีกด้วย

ต้องบอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้หลังจากมีการแพร่ภาพออกไปไม่นานก็ได้รับความนิยมเป็น หนังฮิต และยังติด 1 ใน ท๊อป 10 ของ Netflix กว่า 24 ประเทศทั่วโลกกันเลยทีเดียว ใครยังไม่ดูต้องห้ามพลาดกันนะคะ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days