Morbius (2022) มอร์เบียส ฮีโร่พันธุ์กระหายเลือด เป็นภาพยนตร์ที่กล่าวถึงวายร้ายหนึ่งในตัวละครจากสไปเดอร์แมน ที่บางท่านอาจจะเคยรู้จักมาก่อน หากเล่าย้อนไปต้องบอกว่าสไปเดอร์แมนเป็นการ์ตูนคอมมิกส์ (Comics) ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีพการเขียนภาคต่อออกมามากพอสมควร ในแต่ละตอนก็จะมีวายร้ายรูปแบบต่างๆ ถูกเปิดตัว เพื่อมาต่อสู้กับสไปเดอร์แมนกันตลอด และมอร์เบียสก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน สำหรับ หนังใหม่ เรื่องนี้เป็นเหมือนการดึงเอาเรื่องราวของวายร้ายออกมาบ่งบอกความเป็นมาของแต่ละตัว โดยก่อนหน้านี้เคยมีการนำวายร้ายจากสไปเดอร์แมนมาสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยเช่นกันอย่างเรื่อง Venom ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในคราวนี้ทางโซนี่จึงตัดสินใจที่จะดึงตัวร้ายออกมาสร้างเป็นภาพยนตร์กันอีกครั้ง
เนื้อเรื่องย่อของภาพยนตร์เรื่อง มอร์เบียส ฮีโร่พันธุ์กระหายเลือด

ภาพยนตร์เรื่องมอร์เบียส เริ่มต้นจะกล่าวถึงผู้ชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ไมเคิล มอร์เบียส (รับบทโดย จาเรด เลโต) นักชีวเคมีอัจฉริยะและมีความสามารถ เป็นคุณหมอฝีมือดี แต่ชีวิตค่อนข้างน่าสงสาร เพราะเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับสุขภาพร่างกายย่ำแย่ที่เกิดจากโรคเลือดหายากและเป็นอันตรายต่อชีวิต เขาต้องอาศัยอยู่ในโรงพยาบาลมาตั้งแต่เด็ก และที่นี่เองทำให้เขาได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อว่า ไมโล ลูเซียส คราวน์ (รับบทโดย Matt Smith) ที่มีสุขภาพย่ำแย่เช่นกัน ทำให้ทั้งคู่สนิทกันในเวลาอันรวดเร็ว

ด้วยสาเหตุนี้เองไมเคิลจึงพยายามที่จะค้นหาวิธีในการรักษาอาการของตัวเองให้หายเป็นปกติ จนบังเอิญไปพบความลับการรักษาโดยใช้ค้างคาวเป็นตัวช่วย แต่วิธีนี้แทนที่เขาจะหายจากโรคและกลับมาเป็นปกติเหมือนคนทั่วไป มันกับทำให้เขาแข็งแกร่งมีพลังเหนือมนุษย์ ไม่เพียงเท่านั้นยังกลายเป็นแวมไพร์กระหายเลือด ที่คุ้มคลั่งและไล่ล่าทำร้ายผู้คน เขาจึงต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะควบคุมตัวเองให้ได้ และปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แต่แล้วไมโลก็เกิดล่วงรู้ความลับนี้เข้าจนได้ และใช้มันรักษาตัวเองเช่นกัน ทำให้ไมโลมีร่างกายที่แข็งแกร่งและมีพลังเหนือมนุษย์เช่นเดียวกับไมเคิล แต่ที่ต่างไปก็คือไมโลกระหายเลือดและไม่คิดจะหยุดความคุ้มคั่งของตัวเอง และพยายามที่จะไล่ล่า ไมเคิลจึงทำเป็นต้องหยุดและยุติเรื่องนี้

สำหรับ หนังใหม่ เรื่องราวอาจดูไม่เข้มข้นสักเท่าไหร่ และยังดูเหมือนซ้ำแนวเดิมๆ จากภาพยนตร์หลายเรื่องที่ผ่านมา ทำให้คนดูอาจรู้สึกเหมือนดูหนังซ้ำ แต่ตัวนักแสดงก็สามารถสื่อสิ่งต่างๆ ออกมาได้ดีทีเดียว ฉากแต่ละตอนก็ทำมาใช้ได้น่าสนใจ และหนังยังดึงความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัวที่ซ่อนความร้ายลึกเอาไว้ในจิตใจ ภายใต้ฉากบังหน้าที่ดูดี
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days