ชายจากโตรอนโต (The Man From Toronto) หนังฮิต แนวแอคชั่นผสมความฮาที่คุณต้องห้ามพลาดอีกเรื่อง สำหรับเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวภารกิจการผจญภัยที่อยู่ๆ หนุ่มธรรมดาๆ คนหนึ่งต้องจับพลัดจับผลูมารวมมือกับนักนักฆ่าระดับพระกาฬ ที่เล่นเอาป่วนกันไปทั้งเมือง เป็นผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ “แพทริค ฮิวจ์ส” จากหนังชุด The Hitman’s Bodyguard ทั้ง 2 ภาค ทำให้พล็อตเรื่องและบรรยากาศต่างๆ ไม่แตกต่างจากเรื่องเดิมเท่าไหร่นัก แต่ถึงจะซ้ำแนวเดิมๆ แต่เนื้อหาก็ไม่ได้แย่จนเกินไป เรียกได้ว่าเป็นการนำหนังแอคชั่น ตลก และบู้มาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว โดยภายในเนื้อเรื่องจะมีตัวแสดงหลักอยู่สองคนได้แก่ เควิน ฮาร์ท (Kevin Hart) และ วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน (Woody Harrelson)
เรื่องราวของ ชายจากโตรอนโต The Man From Toronto

หนังเริ่มต้นเรื่องโดยตัวเอกของเรื่อง ฮาร์ด (รับบทโดย เควิน ฮาร์ท) กำลังต้องการหาบ้านพักตากอากาศดีๆ สักหลังเพื่อฉลองวันครบรอบกับภรรยา แต่เมื่อเข้าเดินทางไปดูบ้านล่วงหน้า เรื่องราวต่างๆ ดันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะบ้านหลังดังกล่าวกลับเป็นที่ขังคนเอาไว้และผู้ที่เฝ้าก็คิดว่าเขาคือชายจากโตรอนโตนักฆ่าโหดที่จะมาช่วยเค้นความลับจากปากชายที่ถูกคุมขัง แต่ด้วยไหวพริบเขาสามารถเอาตัวรอดได้ รวมทั้งเค้นความลับออกมาได้สำเร็จ โดยแกล้งทำตัวเป็นนักฆ่าสุดโหดที่ถูกเข้าใจผิด แต่ในระหว่างนั้นทาง CIA ก็ได้ติดตามมาและยิงถล่มบ้านและจะจับกุมเขาไปสอบสวน และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของความป่วนไปตลอดทั้งเรื่อง ที่สุดท้ายแล้วด้วยภาวะจำยอมเขาจึงต้องร่วมมือกับชายจากโตรอนโต ฮาร์เรลสัน (แสดงโดย วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน)

ทั้งคู่ร่วมผจญภัยไปด้วยกันเสี่ยงอันตรายต่างๆ เป็นเหมือนคู่หูสุดป่วนที่อีกคนเก่งด้านการฆ่าและการเอาตัวรอด แต่อีกคนกับเก่งแค่พูดอย่างเดียว สุดท้ายฮาร์ดตัดสินใจจะเปลี่ยนฮาร์เรลสัน ให้กับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป ซึ่งฮาร์เรลสันก็มีความตั้งใจจะวางมือจากการเป็นนักฆ่าและเปิดร้านอาหารสักร้าน เห็นแบบนี้แต่เปลืองหลังกับเป็นคนชอบทำอาหาร และฝันอยากมีชีวิตปกติธรรมดาเช่นกัน แต่ฮาร์เรลสันต้องทำภารกิจสุดท้ายให้สำเร็จก่อน เพราะเขาต้องการนำเงินมาทำความฝันของตนให้เป็นจริง โดยฮาร์ดตัดสินใจจะช่วยจนกว่าจะสำเร็จ โดยแกล้งเป็นชายจากโตรอนโต

เราต้องมาลุ้นกันว่าฮาร์ดจะทำสำเร็จไหม และเขาจะแกล้งเป็นนักฆ่าได้แนบเนียนแค่ไหนในบุคลิกสุดฮา แต่ต้องแสดงเป็นนักฆ่าสุดโหด ใครสนใจตอนนี้สามารถรับชมกันได้แล้วทาง Netflix เป็นหนังที่เหมือนจะบู้โหดๆ แต่ก็ดูได้แบบเบาสมองและสนุกใช้ได้อีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days