สำหรับ หนังฮิต แม้ว่าหนังภาคแรกที่ทำออกมานั้นจะสนุกและประสบความสำเร็จ จนต้องมีการสร้างภาค 2 ออกมา แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีได้เลยว่าภาคต่อที่สร้างออกมานั้นจะต้องสนุกหรือว่าประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันกับภาคแรก เพราะว่าในวันนี้ทางเราจะมาแนะนำ 5 หนังภาคต่อ สุดห่วย ที่ควรหยุดสร้างไปตั้งแต่ภาคแรก ซึ่งทางเราก็อยากจะกระซิบบอกว่า หนังเหล่านี้หาดูแค่ภาคแรกพอแล้ว อย่าได้ไปหาภาคต่อมาดูอย่างเด็ดขาด ถ้ายังไม่อยากเสียดายเวลาชีวิต หรือว่าท่านไหนอยากจะลองดี ก็เชิญตามสบาย แต่อย่าหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ
แนะนำให้รู้จักกับ 5 หนังภาคต่อ สุดห่วย

- Speed 2 : Cruise Control (1997) แม้ภาคแรกจะได้รับเสียงตอบรับถล่มทลาย จนไปติด top หนังดังของ Keanu Reeves และ Sandra Bullock แถมยังได้คะแนนจาก Rotten Tomatoes ไปถึง 94% กับรายได้อีก 350 ล้านเหรียญ ทว่าภาคสองนั้นกลับทำออกมาได้อย่างน่าผิดหวัง ไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจไปกว่าภาคแรก แถมนักแสดงพระเอกยังขนาดเสน่ห์แบบสุด ๆ ส่งผลให้ภาคนี้คะแนนลดลงเหลือเพียงแค่ 4% กับรายได้ที่ปิดตัวได้แค่ 164 ล้านเหรียญ เท่านั้น
- The Whole Ten Yards (2003) ถึงแม้ว่าภาคแรกจะไม่ได้ดีเด่นอะไรขนาดนั้น กับหนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับมือปืนผู้มาหลบซ่อนที่บ้านและมีบ้านใกล้เรือนเคียงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ทางผู้สร้างเข็นนำภาค 2 ออกมาฉาย แถมยังแป้กหนักกว่าเดิมอีกต่างหาก กับคะแนนวิจารย์ของ Rotten Tomato ที่ลดลงจาก 45% เหลือ 4% และรายได้จาก 106 ล้านเหรียญ เหลือเพียง 26 ล้านเหรียญเท่านั้น
- Son of the Mask (2005) หลังจากที่ภาคแรกสามารถสร้างรายได้มากถึง 351 ล้านเหรียญ และได้รับคะแนนจาก Rotten Tomato ไปอีก 77% ทำให้ทางทีมผู้สร้างต้องการที่จะนำหนังเรื่องนี้มาสร้างภาคต่อ แม้ว่าระยะเวลาจะห่างกันถึง 11 ปีก็ตาม แต่จะด้วยเพราะไม่มีทีมงานหลักหรือนักแสดงจากภาคแรกเข้ามามีส่วนร่วมเลย หรือจะด้วยเหตุผลอื่นใดก็ตามที ส่งผลให้ภาคต่อคะแนนวิจารณ์ล่วงหล่นไปอยู่ที่ 6% กับรายได้ที่หดหายไปมากกว่า 1 ใน 5 เหลือเพียง 59 ล้านเหรียญ
- I Still Know What You Did Last Summer (1998) กับหนังสยองขวัญวัยรุ่นที่ภาคแรกนั้นมีความสดใหม่ที่แตกต่างจากหนังแนวนี้โดยทั่ว ๆ ไป ทำให้สามารถกวาดรายได้ไปถึง 125 ล้านเหรียญ และคะแนนจาก Rotten Tomato อีก 42% ทว่าภาคต่อนั้นนอกจากจะทำออกมาซ้ำรอยเดิมจากภาคแรกไม่มีอะไรแปลกใหม่แล้ว คุณภาพของหนังยังย่ำแย่ ด้วยเวลาถ่ายทำเพียง 1 ปี ราวกับว่าต้องการสร้างออกมาเพื่อโกยรายได้เท่านั้น ทำให้รายได้ที่ได้รับลดฮวบลงไปเหลือ 40 ล้านเหรียญ และคะแนนวิจารณ์ที่ 7% เท่านั้นเอง


อัพเดทข่าวสาร และ หนังฮิต เพิ่มเติมที่ The7days