สำหรับ หนังใหม่ ต้องบอกว่าเป็นภาพยนตร์ที่รอคอยกันยาวนานพอสมควรเลยทีเดียว สำหรับ มหัศจรรย์รักข้ามภพ 2 ที่ในภาคนี้ใช้ชื่อเรื่องว่า “Disenchanted มหัศจรรย์รักข้ามภพกับเวทมนตร์อลเวง” จากภาคแรกที่ออกฉายตั้งแต่ปี 2007 จนถึงภาค 2 เป็นระยะเวลาถึง 15 ปี ซึ่งในภาคแรกภาพยนตร์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลหลายรายการ ถึงแม้จะไม่ได้รับรางวัลใดเลยก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องราวที่ใครได้ดูต่างรู้สึกประทับใจ ในบทบาทการแสดงของนักแสดงในเรื่องทั้งนักแสดงนำและตัวประกอบ ต่างก็มีส่วนทำให้เนื้อเรื่องดูน่าติดตาม ซึ่งในภาค 2 ยังคงเป็นนักแสดงหลักได้กลับมาเล่นอีกครั้งเกือบทั้งหมด และมีนักแสดงใหม่เสริมเข้ามา เพื่อให้เนื้อเรื่องอลเวงมากขึ้นไปกว่าเดิม สำหรับใครที่ไม่ได้ดูในภาคแรกหนังก็จะมีการเท้าความกันเล็กน้อย เพื่อให้คนดูไม่รู้สึกสับสนจนเกินไป
เนื่อเรื่องย่อ Disenchanted มหัศจรรย์รักข้ามภพ 2

สำหรับในภาคนี้จะเป็นเรื่องราวเล่าต่อจากภาคแรก โดยเลยมาอีก 10 ปี หลังจากที่ “จีเซล” (รับบทโดย Amy Adams) คิดว่าตนเองพบความสุขชั่วนิจนิรันดร์ โดยการได้ครองคู่อยู่กับ โรเบิร์ต (รับบทโดย Patrick Dempsey) และดูแลมอร์แกน ลูกสาวโรเบิร์ต แต่หลังจากที่ “จีเซล” คลอดลูกอีกคน รวมทั้งมอร์แกน เริ่มเติบโตเป็นวัยรุ่น อะไรหลายๆ อย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะบ้านที่ดูเหมือนจะแคบลง จีเซล และ โรเบิร์ต จึงตัดสินใจขายบ้านและไปซื้อบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม แต่อยู่นอกเมืองทำให้มอร์แกนที่เริ่มเป็นวัยรุ่นและอยากใช้ชีวิตอยู่ในเมืองมากกว่ารู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก เพราะเธอต้องย้ายโรงเรียนและห่างไกลจากเพื่อนอีกด้วย รวมทั้งมอร์แกนเริ่มรู้สึกว่าเธอโตแล้ว เรื่องราวชีวิตแบบเทพนิยายไม่ใช่ความฝันของเธออีกต่อไป ซึ่งผิดกับจีเซล เธอยังต้องการให้ชีวิตเป็นเหมือนดั่งเทพนิยาย ทั้งสองคนเลยจะเริ่มเข้ากันไม่ได้ รวมทั้งผู้คนในชุมชนก็ดูจะไม่ค่อยชอบเธอสักเท่าไหร่นัก ทำให้จีเซลรู้สึกว่าชีวิตดุจเทพนิยายของเธอกำลังจะถูกสั่นคลอน
ต่อมาเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด (รับบทโดย James Marsden) และ ราชินีซูซาน (รับบทโดย Idina Menze) ได้แวะมาเยี่ยมและได้มอบคฑาวิเศษไว้ให้จีเซล โดยบอกว่าสามารถอธิฐานขออะไรก็ได้ “จีเซล” จึงได้ขอให้ชีวิตกับมาเป็นเหมือนเทพนิยายอีกครั้ง แต่คราวนี้สิ่งที่ขอกับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดฝัน เพราะเรื่องราวกลับตาลปัตร และถ้า “จีเซล” ไม่รีบแก้ไขให้ทันก่อนนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน เรื่องราวเลวร้ายต่างๆ ก็จะคงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์

ต้องบอกว่าผู้กำกับและคนเขียนบทเป็นอะไรที่เก่งมากๆ เพราะสามารถนำเทพนิยายแต่ละเรื่องมาผสมผสานเป็นเรื่องเดียวกันได้อย่างลงตัว อาจจะออกแนวอลเวงไปบ้างแต่ก็ช่วยให้เพิ่มสีสันให้กับหนังได้เป็นอย่างดี อาจจะไม่สนุกเท่าภาคแรกแต่ก็ยังเป็น หนังใหม่ ที่น่าดูอีกเรื่องเช่นกัน
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days