The Big 4 เป็นภาพยนตร์แอคชั่นจากอินโดนีเซีย สร้างโดย Original Netflix และยังเป็นหนังที่ขึ้นอันดับหนึ่ง Netflix ในไทยอีกด้วย อาจจะถูกใจผู้ชมชาวไทยหลายท่าน เพราะเรื่องราวต่างๆ ภายในภาพยนตร์จะคล้ายแนวหนังไทยอยู่หลายตอน อาจเป็นเพราะว่าประเทศอินโดนีเซียอยู่ในโซนตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ลักษณะโดยทั่วไปของการสร้างภาพยนตร์ไม่แตกต่างจากในบ้านเราเท่าไหร่นัก รวมไปถึงบรรยากาศต่างๆ ภายในหนังก็เช่นเดียวกัน ทั้งลักษณะอาคารบ้านเรือน รูปร่างหน้าตาของนักแสดง โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกแนวบู๊แอคชั่นแบบฆ่ากันเลือดสาด และยังแฝงมุกตลกเอาไว้ด้วย ประมาณว่าบางฉากที่เราเห็นเลือดท่วมจอก็ยังมีการแอบแทรกมุกตลกเข้ามาจนได้
เนื้อเรื่องย่อ The Big 4

เรื่องราวจะกล่าวถึงแก๊งนักฆ่าที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกัน 4 คน ประกอบไปด้วยผู้ชาย 3 คน และผู้หญิง 1 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นเด็กกำพร้า ที่มีพ่อบุญธรรมรับมาเลี้ยงและฝึกให้พวกเขาเป็นนักฆ่า แต่เป็นนักฆ่าประเภทช่วยเหลือคนอื่นออกแนวปราบอาชญากรรม ฆ่าคนร้ายพิทักษ์คนดีอะไรแบบนั้น แต่ก็ไม่ถึงขนาดเป็นฮีโร่ แต่จะเป็นฮีโร่หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ เพราะในหนังสี่คนนี้ถึงจะเจ็บขนาดไหนก็ยังฆ่าไม่ตาย แถมคนเดียวยังสู้กับศัตรูที่มีอาวุธครบมือหลายๆ คนได้ หนังอาจจะออกแนวโอเว่อร์ไปนิด แต่ก็ไม่ถึงกลับดูไม่ได้ มาต่อกันในเนื้อเรื่องดีกว่า หลังจากนั้นไม่นานพ่อบุญธรรมของพวกเขาก็ถูกฆ่า และพวกเขาถูกลูกสาวแท้ๆ ของพ่อบุญธรรมเข้าใจผิดว่าเป็นคนสังหารพ่อบุญธรรม เพราะในวันที่พ่อเสียชีวิต หนึ่งใน 4 คน เข้ามาหาที่บ้านและพบศพเข้าพอดี ในระหว่างนั้นลูกสาวแท้ๆ ได้เดินทางกลับมา และไม่ได้รู้จักลูกบุญธรรมของพ่อ หรือก็คือไม่เคยทราบมาก่อนว่าพ่อแอบไปรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไว้เป็นลูกบุญธรรมถึง 4 คน เมื่อเธอเข้าใจผิดทำให้เธอคิดจะตามแก้แค้น และด้วยความที่เธอเป็นตำรวจทำให้การสืบคดีไม่ยากจนเกินไปนัก แต่สุดท้ายเธอก็ทราบความจริงทั้งหมดว่าใครกันแน่ที่เป็นคนสังหารพ่อ ทำให้เธอและลูกบุญธรรมทั้ง 4 ต้องหันมาร่วมมือกันเพื่อล้างแค้นให้พ่อ แต่เรื่องก็ไม่ใช่ง่าย เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน แต่จะสำเร็จไหมนั้นใครอยากทราบตามไปหาคำตอบในหนังกันได้เลย

ดูไปแล้วหนังอาจเดาเนื้อเรื่องไม่ยากเท่าไหร่นัก เพราะแนวหนังประมาณนี้ในบ้านเราก็มีออกมาฉายกันหลายเรื่องเลยทีเดียว แต่สำหรับเรื่องนี้ต้องมีอะไรดีอยู่บ้าง เพราะอย่างที่กล่าวในข้างต้นว่าติดอันดับหนัง Netflix ในเมืองไทย ใครอยากรู้ว่าสนุกแค่ไหนติดตามชมกันแล้วทาง Netflix
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days