พบกันอีกครั้งกับ หนังใหม่ Seven Kings Must Die มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า เจ็ดกษัตริย์ จักวายชนม์ ส่วนในภาษาอังกฤษจะมีชื่อเต็มๆ ว่า The Last Kingdom Seven Kings Must Die เป็นภาพยนตร์แนวสู้แย่งชิงผสมดราม่า และยังอิงประวัติศาสตร์ของอังกฤษเกี่ยวกับการรวมแผ่นดินอังกฤษให้เป็นปึกแผ่น ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Edward Bazalgette เขียนบทโดย Martha Hillier และสร้างมาจาก The Saxon Stories โดย Bernard Cornwell ซึ่ง The Last Kingdom ถือเป็นภาคต่อ และยังได้ Alexander Dreymon นักแสดงนำของเรื่อง ที่มารับบทเป็น Uhtred แห่ง Bebbanburg ภาพยนตร์เรื่องนี้เผยแพร่ผ่านทาง Netflix เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2566 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นบทสรุปของซีรีส์และเรื่องราวต่างๆ จากภาคแรก
เค้าโครงเรื่อง Seven Kings Must Die เจ็ดกษัตริย์ จักวายชนม์

หลังจากที่กษัตริย์ Edward ทรงป่วยและสิ้นพระชนม์ลง ชาวเดนส์ภายใต้การปกครองของกษัตริย์ Anlaf invade Northumbria และเจ้าชาย Ælfweard ก็ขึ้นครองราชย์ โดยได้รับการสนับสนุนจากขุนนางแห่ง Wessex และทหารรับจ้าง และบีบให้ราชินี Eadgifu และเจ้าชาย Edmund ต้องลี้ภัยไปหา Uhtred ใน Bebbanburg ที่นี่ Ingrith ภรรยาของ Finan ได้ทำนายว่า “กษัตริย์ทั้งเจ็ดจะต้องตายและผู้หญิงที่คุณรัก” ก่อนที่อังกฤษจะรวมเป็นหนึ่ง ในขณะที่ Uhtred ซึ่งปัจจุบันเป็นชายชราไม่สนใจคำทำนาย เพราะเขาไม่ใช่กษัตริย์และไม่มีภรรยา Uhtred รวบรวมเพื่อน ๆ ของเขาเพื่อเดินหน้าไปหา Ælfweard ก่อนที่เขาจะประสานพลังของเขาเพื่อให้ Aethelstan ขึ้นครองบัลลังก์ และสั่งให้ Osbert ลูกชายของเขาช่วยฝึกฝน Edmund เจ้าชาย Aethelstan เติบโตขึ้นมาอย่างเคร่งศาสนาและได้รับลอร์ด Ingilmunder เป็นที่ปรึกษา โดยลอร์ด Ingilmunder มักอ้างถึงพระคัมภีร์เพื่อที่จะบงการการกระทำของเจ้าชาย

Aegelesburg Uhtred และคนของเขาปลอมตัวเป็นทหารรับจ้างที่ต้องการต่อสู้เพื่อ Ælfweard เพียงเพื่อจะรู้ว่าเขาวางแผนที่จะล่อ Aethelstan ให้ติดกับดัก อย่างไรก็ตาม Aethelstan คาดการณ์และเอาชนะกับดักของพี่ชายของเขาได้ ในขณะที่ Uhtred เข้าควบคุมประตูเมือง ทำให้ Uhtred โน้มน้าวให้ Ælfweard ยอมจำนนอย่างสงบ ด้วยความเชื่อมั่นว่าเขาได้รับเลือกจากพระเจ้าให้เป็นทายาทโดยชอบธรรม Aethelstan จึงฆ่าน้องชายของเขาอย่างเลือดเย็นแทนที่จะปล่อยให้เขาถูกเนรเทศ และให้คนของเขาสังหารคนของ Ælfweard โดย Uhtred พยายามโน้มน้าวให้ Aethelstan ยืนหยัดต่อต้านความปรารถนาของ Ingilmunder แต่เขาปฏิเสธที่จะคุกเข่าต่อหน้า Aethelstan จนกว่าเขาจะได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการที่ Winchester ซึ่งก็สร้างความไม่พอใจให้กับ Aethelstanพอสมควรเลยทีเดียว และเริ่มมอง Uhtred เป็นศัตรู

ภาพยนตร์ค่อนข้างยาว เพราะมีความยาวถึง 111 นาที เกือบสองชั่วโมงเลยทีเดียว โดยเนื้อเรื่องและรายละเอียดต่างๆ ก็ยังคงน่าติดตามไม่แตกจากภาคแรกมากนัก ใครเคยรับชม The Saxon Stories มาแล้ว หากอยากทราบบทสรุปของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว คุณต้องห้ามพลาดชม The Last Kingdom Seven Kings Must Die อย่างเด็ดขาด ซึ่งตอนนี้สามารถหารับชมกันได้แล้วทาง Netflix
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days